Langtang Valley
Langtang Valley
5
Turer og opplevelser
Finn forskjellige måter å oppleve dette stedet på.
Hva er Travellers' Choice?
Tripadvisor gir ut Travellers' Choice-priser til overnattingssteder, attraksjoner og restauranter som konsekvent får gode anmeldelser fra reisende og er rangert i de øverste 10 % av steder på Tripadvisor.
Inntekter påvirker opplevelsene som er omtalt på denne siden. Finn ut mer.
De beste måtene å oppleve Langtang Valley på
Området
Ta kontakt direkte
Vi utfører kontroller på anmeldelser.
Tripadvisors tilnærming til anmeldelser
Hver Tripadvisor-anmeldelse går gjennom et automatisert sporingssystem før den legges ut. Dette systemet samler inn informasjon som svarer på følgende spørsmål: Hvordan, hva, hvor og når. Hvis systemet oppdager noe som muligens strider imot retningslinjene våre for fellesskapet, blir anmeldelsen ikke publisert.
Når systemet oppdager et problem, kan en anmeldelse automatisk avvises, sendes til anmelderen for bekreftelse eller gjennomgås manuelt av teamet vårt av innholdsspesialister. Disse spesialistene jobber døgnet rundt for å opprettholde kvaliteten av anmeldelsene på nettstedet vårt.
Teamet vårt sjekker hver anmeldelse som er lagt ut på nettstedet og bestrides av fellesskapet vårt for ikke å møte retningslinjene våre for fellesskapet.
Finn ut mer om moderering av anmeldelser.
5.0
56 anmeldelser
Ypperlig
48
Svært bra
8
Gjennomsnittlig
0
Dårlig
0
Forferdelig
0
tigerxmen
Thailand54 920 bidrag
des. 2023 • Alene
เส้นทางเดิน Langtang Valley หรือคนส่วนใหญ่จะเรียกว่าเส้น ลังตังเทรค ในอดีตเส้นทางนี้ยอดนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวจะมากัน เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินชมวิถีท้องถิ่นความเป็นอยู่ของชาวทิเบตที่อพยบมาอาศัยอยู่ประเทศเนปาลในแนวเขตเขาหิมาลัย ที่ยังคงมีอัตลักษณ์แบบชีวิตดั้งเดิมให้ได้สัมผัส,ได้ชมกุหลาบพันปีโดยดอกกุหลาบจะบานสะพรั่งในช่วงเดือน มีนาคม-กลางเดือนพฤษภาคม ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี
และถ้าท่านมาเดินเทรคเส้นนี้ในช่วงเดือน พฤศจิกายน แนะนำว่าห้ามพลาด ชิมน้ำผลไม้ท้องถิ่นของลังตังที่ชื่อว่า Seabuckthorn Juice ซึ่งเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ท้องถิ่น ทำมาจากผล Hippophae Salicifolia มีลักษณะเป็นพวง ผลเป็นลูกเล็กๆสีส้ม ชาวพื้นเมืองจะนำมาทำน้ำผลไม้ชนิดนี้ เวลากินจะมีรสหวานอมเปรี้ยว อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ดื่มแล้วสดชื่นมากๆ แต่ระหว่างทางเดินไต่ระดับไปตามความสูงของเขาก็จะมีผลไม้ชนิดนี้ขึ้นอยู่บริเวณริมทางสามารถเด็ดกินได้เลยฟรีโดยไม่เสียเงิน
ซีบัคธอร์นSea Buckthorn นัับได้ว่าเป็นผลไม้มหัศจรรย์ที่จะทำให้คุณจะต้องทึ่งเป็นพืชโบราณที่ถือว่าเป็นเก่าแก่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง มีอายุยาวนานถึง 65 ล้านปี ได้ชื่อว่าเป็นราชาผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ อุดมไปด้วยคุณค่าของสารอาหารอยู่อย่างมากมายในสมัยกรีกโบราณได้มีการนำซีบัคธอร์นมาใช้เพื่อบำรุงรักษาม้าศึก โดยการนำผลและใบของซีบัคธอร์นมาใช้ในหลายๆวิธีเพื่อดูแลม้าให้มีสุขภาพแข็งแรงมีกำลังวังชา ขนดกมันวาว
ด้วยเหตุนี้ชาวกรีกโบราณจึงเรียกซีบัคธอร์นว่า ฮิปโปฟาเอ (Hippophae) หมายถึงม้าที่มีขนสวยเป็นเงางามผลไม้ชนิดนี้จะขึ้นอยู่ตามบริเวณที่ราบสูงที่มีอากาศหนาวจัดตลอดปี ผลจะมีสีเหลืองอมส้มรสชาติเปรี้ยว
-อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนสูงช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส
-มีวิตามินซีเยอะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่ากินส้ม15เท่า
-มีฟีนอลที่หยุดอ๊อกซิเดชั่นได้อย่างยอดเยี่ยม
-มีเบต้าแคโรทีนช่วยลดการแก่ก่อนวัยของเซลล์ผิว เป็นต้น
ตามโรงแรมที่พักและร้านชาแถบหิมาลัย จะมีน้ำดื่มที่มีส่วนผสมของผลไม้ชนิดนี้จำหน่ายราคาแพงมากด้วย
ในระหว่างเดินเท้าไปยังจุดหมายปลายทางท่านจะได้เห็นความหลากหลายทางชีวภาพทั้งสัตว์ป่าและป่าไม้ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์เพราะเส้นทางเดินนี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติลังตัง จึงได้รับการดูแลและปกป้องเป็นอย่างดี อีกทั้งท่านจะได้มาดื่มด่ำกับทัศนียภาพของหิมาลัยแบบพาโนรามา ซึ่ง Langtang Lirung จะเป็นยอดเขาที่สูงสุดในเขตลังตัง อยู่ที่ระดับความสูงถึง 7,227 เมตร ซึ่งท่านสามารถชมความตระการตานี้ได้ในระยะประชิดจากบริเวณหมู่บ้าน Kyanjin Gompa หรือถ้าหากท่านอยากสัมผัสความงดงามของเขาอย่างใกล้ชิดก็สามารถเดินขึ้นไปพิชิตยอดเขา Kyanjin Ri ที่ระดับความสูง 4,773เมตร, Menchhyamsa Ri ที่ระดับความสูง 4,590 เมตร หรือเดินไปยัง Tsergo Ri ที่ระดับความสูง 4,984 เมตร ได้
และนอกเหนือจากความงดงามของ Langtang Lirung แล้ว ในวันที่ท้องฟ้าเปิดก็ยังจะได้เห็นภูเขาหิมาลัยลูกอื่นๆได้ด้วยเช่น Ganesh Himal , Manaslu, Dorje Lakpa, Langshisha Ri,Gangchhenpo,Yala peak และ Naya Kanga ฯลฯ
แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี2015 ซึ่งเส้นทางเดินนี้ได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง ทำให้หมู่บ้านที่อยู่ในแถบนี้ได้รับความเสียหายเยอะรวมไปถึงโรงแรมที่พัก ทำให้นักท่องเที่ยวเบนจุดหมายในการเดินเทรคไปยังเส้นทางอื่นๆแทนอาทิ เช่น เส้น ABC ,เส้น EBC (Everest Base Camp ) , เส้น Mardi Himal Base Camp เป็นต้น
ปัจจุบัน ถนนและเส้นทางเดินได้รับการฟื้นฟู จนสามารถกลับมาเดินเทรคได้แล้ว อีกทั้ง โรงแรมที่พักก็มีการซ่อมแซมก่อสร้างกันขึ้นมาใหม่เพื่อเปิดรับนักเดินทางอีกครั้ง
สำหรับโปรแกรมที่ข้าพเจ้าเดินเทรคเส้นนี้ใช้ระยะเวลาทั้งหมด8วัน โดยเริ่มตั้งแต่
-วันที่1 ออกเดินทางจากโรงแรม Vannasut Hotel and Spa กลางเมืองกาฐมาณฑุ ขึ้นรถจิ๊บส่วนตัว เดินทางไปยัง Syabru Besi ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,450เมตร ใช้ระยะเวลาในการนั่งรถประมาณ6ชั่วโมงโดยประมาณในกรณีท่านนั่งรถจิ๊ฟแบบส่วนตัวแต่ถ้านั่งรถโดยสารขนาดใหญ่ร่วมกันกับผู้อื่นจะใช้เวลาในการเดินทาง8ชั่วโมง เมื่อถึงที่นี่แล้วก็เข้าพักที่โรงแรมที่พัก1คืน โรงแรมที่พักที่นี่มีห้องน้ำส่วนตัวสะดวก
- วันที่2 เริ่มเดินเทคเป็นการเดินย้อนลัดเลาะไปตามสายน้ำหิมาลัยที่ไหลลงมายังที่ต่ำเพื่อเราจะต้องไต่ระดับความสูงไปเรื่อยๆโดยไปพักที่ rimche ที่ระดับความสูง 2,495เมตร พักที่นี่1คืน ใช้เวลาในการเดินพร้อมแวะถ่ายรูปไป7ชั่วโมง รวมแวะกินอาหารมื้อเที่ยงระหว่างทาง โรงแรมที่พักที่นี่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัวเป็นห้องน้ำรวมสะอาดพอสมควร ในห้องพักไม่มีอะไรให้เลยมีเพียงที่นอนและหมอนท่านต้องเตรียมถุงนอนมาอย่างต่ำ1ผืนแต่ข้าพเจ้าเตรียมมา2ผืนโดยนำมาจากเมืองไทย1ผืนและได้จากบริษัททัวร์อีก1ผืน พอจะช่วยให้คลายหนาวได้ และอีกเทคนิคที่ทางทัวร์บอกถ้าอยากให้ภายในถุงนอนอบอุ่นให้ซื้อน้ำร้อนจากร้านอาหารในที่พักใส่ในกระบอกน้ำใสที่เตรียมมาแล้วยัดเข้าไปในถุงนอนมันจะค่อยๆปล่อยความร้อนออกมาซึ่งก็พอจะช่วยลดระดับความหนาวลงได้ประมาณ3-5ชั่วโมงไม่ถึงกับตลอดคืนแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีตัวช่วย และอีกหนึ่งสิ่งที่แนะนำควรเตรียมมาคือถุงทรายร้อน,แผ่นแปะร้อนของญี่ปุ่นก็จะช่วยให้อบอุ่นได้เยอะเช่นกัน
โดยระหว่างเดินของแต่ละวัน ช่วงมื้อกลางวันจะแวะ Tea house กินอาหารของคนท้องถิ่นซึ่งเปิดให้บริการอาหารสไตล์เนปาลซึ่งเป็นอาหารที่มีอัตลักษณ์แสดงถึงวัฒนธรรมดั้งเดิม ชาวเนปาลจะใช้สมุนไพรและเครื่องเทศท้องถิ่นมากมายในการทำอาหารที่มีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางอาหารสูง
และมีเมนูอาหารแบบทิเบตผสมผสานอยู่ด้วย โดยทุกเมนูแทบจะไม่มีเนื้อสัตว์ จะเป็นอาหารมังสวิรัติเป็นหลัก โดยวัตถุดิบเช่นผักก็จะปลูกกันเองตามธรรมชาติปลอดภัยไร้สารเคมีและแป้งที่ทำจากข้าวสาลี
ในระหว่างเดินเทรคท่านจะเห็นป้ายภาษาเนปาลบอกให้ทราบว่าที่บริเวณนี้คือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หลายจุดตามภูเขาในเนปาล จะมีป้ายแจ้งแก่นักท่องเที่ยวให้รู้ว่า ห้ามกินเนื้อหมู, เนื้อควาย, เนื้อไก่ เนื่องจากชาวเมืองแถวนี้เขาเชื่อว่าเป็นสถานที่สถิตของเทพเจ้าของเขา และเมนูอาหารที่ครอบครัวชาวเนปาลทำก็จะเจอผัก ,ปลา, แป้ง,ไข่, ข้าว เป็นต้น
- วันที่3 เดินเทรคไปยัง Langtang Valley ที่ระดับความสูง 3,430เมตร ใช้เวลาเดิน8ชั่วโมงกับอีก30นาที พักที่นี่1คืน ที่นี่จะมีโรงแรมให้เลือกหลากหลายแบบทั้งแบบโฮมสเตย์ราคาถูกแบบห้องน้ำรวมและโรงแรมที่นี่มีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องพักสะดวก,สะอาดและได้มาตรฐานกว่าเยอะ ซึ่งข้าพเจ้าก็ลองทั้งสองแบบแต่แนะนำว่าให้เลือกโรงแรม Sunrise Guest House เพราะค่อนข้างได้มาตรฐานสูงในพื้นที่มีห้องน้ำในห้องนอน,อาหารอร่อยและแนะนำว่าให้สั่งนมจามรีหรือนม (ํYak) มากินใส่น้ำผึ้งลงไป อร่อยแบบเหนือคำบรรยาย
ระหว่างเดินเท้าท่านจะพบเห็นตัวจามรีหรือคนท้องถิ่นจะเรียกว่า(Yak) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในสายวงศ์ตระกูลของวัวและควาย (Bovidae) จามรีเป็นสัตว์ในตระกูลวัว มีลักษณะคล้ายวัวกระทิง แต่มีขนยาวดกหนาปกคลุ่มทั่วลำตัว มีหางยาวเป็นพู่ มีเขายาวโค้ง มีจุดเด่นคือมีขนที่ยาวมาก สามารถทนความหนาวเย็นได้ถึง- 40 c° และสามารถกินหิมะและน้ำแข็งแทนน้ำ
มีความสามารถในการคุ้ยหาพืชอาหารภายใต้ชั้นหิมะได้เป็นอย่างดี จึงกล่าวได้ว่าจามรีนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีคุณประโยชน์สูง เหมาะสำหรับพื้นที่สภาพอากาศเลวร้ายและทรัพยากรมีจำกัด ส่วนใหญ่ชาวพื้นเมืองจะนิยมเลี้ยงจามรี ใช้เป็นจามรีสามารถเป็นพาหนะในการนำพาเดินขึ้นเขาหรือที่ราบสูงได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงบรรทุกสิ่งของขึ้นที่ราบสูง นอกจากนั้นก็ยังใช้ประโยชน์ในส่วนของเนื้อและนมนำมาทำเป็นอาหาร, ขนและหนังนำมาทำเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม,เพิ่มความอบอุ่นให้กระโจมที่พัก, กระดูกและเขานำมาแกะสลัก เป็นเครื่องมือเครื่องใช้, ไขมันใช้เป็นเชื้อเพลิง
โดยนมของตัวจามรีนี้นอกจากจะนำมาบริโภคสดๆหรือผ่านความร้อนให้สุกแล้วเค้า ยังใช้ทำเป็นเนยแข็งสำหรับชงชาได้ด้วยเพราะมีไขมันสูง ส่วนมูลสัตว์ของจารมีก็สามารถนำไปตากแห้งใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนทรัพยากรไม้ที่มีอย่างจำกัด เรียกได้ว่าสัตว์ชนิดนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้ครบทุกส่วน ท่านสามารถจะพบเห็นจามรีเป็นจำนวนมากในบริเวณพื้นที่เขตเทือกเขาหิมาลัย, ตอนใต้ของเอเชียกลาง, ที่ราบสูงทิเบต ไปจนถึงมองโกเลียและรัสเซีย ซึ่งเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ครับ
- วันที่4 เดินเทรคไปยัง Kyangin Gompa ที่ระดับความสูง 3,870เมตร ใช้เวลาเดิน4ชั่วโมงกับอีก30นาที พักที่นี่1คืน ข้าพเจ้าเลือกพักที่โรงแรม Super view โรงแรมที่นี่ภายในห้องนอนปูพรมเพิ่มความอุ่นเท้าได้เยอะและมีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องพักสะดวกได้มาตรฐาน
- วันที่ 5 วันนี้จะเป็นวันที่หนักและเหนื่อยที่สุดตื่นตั้งแต่3.30น. เริ่มเดินตั้งแต่เวลา5.00น เพราะต้องเดินไต่ระดับความสูงขึ้นไปพิชิตยอดเขา โดยเดินเทรคไปยัง Tseko Ri ที่ระดับความสูง 4,990เมตร ใช้เวลาในการเดินไปและกลับ 9 ชั่วโมง หรือถ้าประเมินสภาพร่างกายแล้วไม่ไหว ก็จะไปแค่ Kyangin Ri ที่ระดับความสูง 4,773เมตร ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินไปและกลับ 6 ชั่วโมง สรุปว่าไปได้เพียงแค่ Kyangin Ri เพราะเวลาไม่พอ กว่าจะกลับลงมาก็เกือบ11.00น.เมื่อลงมาด้านล่างเขาแล้วต้องรีบกินอาหารเช้าที่โรงแรมและเช็คเอ้าท์ออกเพื่อเดินกลับมานอนพักที่ Langtang Valley โดยใช้เวลาในการเดินกลับมาอีก6ชั่วโมงรวมแล้ววันนี้เดินทั้งหมด12ชั่วโมง โดยเข้าพักที่โรงแรม Sunrise Guest House
- วันที่ 6 เดินเทรคย้อนกลับไปทางเดิมซึ่งจะเรียกว่าเดินตามสายน้ำจากหิมาลัย เพื่อกลับไปนอนที่ Lama Hotel ใช้เวลาในการเดิน4ชั่วโมงกับ30นาที พักที่นี่1คืนโดยเข้าพักที่โรงแรมJungle view ที่นี่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัวเป็นห้องน้ำรวมสะอาด,ภายในห้องนอนไม่ใหญ่นักมีผ้าห่มให้และเครื่องนอนให้ครบดีกว่าที่ rimche
- วันที่ 7 เดินเทรคกลับมายัง Syabru Besi และพักที่นี่อีก1คืน ใช้เวลาเดิน 5ชั่วโมงโดยประมาณขาเดินกลับจะใช้เวลาเร็วขึ้นเยอะเพราะไม่ค่อยแวะถ่ายภาพเนื่องจากเก็บรูปและรายละเอียดต่างๆไว้เรียบร้อยหมดแล้วตั้งแต่ขาเดินไป โดยเข้าพักที่โรงแรมRoyal Himalaya Hotel & Lodge ข้าพเจ้ากล้าการันตีได้เลยว่าเป็นโรงแรมที่ได้มาตรฐานดีสุดในละแวกนี้ภายในห้องพักที่นี่มีห้องน้ำส่วนตัวสะดวก,มีผ้าเช็ดตัว,เครื่องนอนคุณภาพดีให้บริการ
-วันที่8 นั่งรถจิ๊บส่วนตัวกลับเมือง กาฐมาณฑุ เข้ากลับไปพักที่โรงแรม Vannasut Hotel and Spa ก่อนเดินทางกลับเมืองไทยในลำดับต่อไป
ห้องพักต่างๆตลอดทางที่เดินไปและกลับจะมีราคาใกล้เคียงกันโดยห้องพักที่ได้มาตรฐานและดีสุดราคาก็ไม่ใช่แพงคืนละ1,000รูเปียเท่านั้นถ้าเทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณ350บาทต่อคืน ดังนั้นแนะนำว่าให้ท่านเลือกโรงแรมดีสุดของแต่ละจุดเท่าที่จะวางแผนเลือกได้
ปัจจัยด้านอาหารคือสิ่งที่แพงสุดแต่นั่นก็คือรายได้เสริมของแต่ละโรงแรมที่พักอย่างข้าพเจ้ากินอาหารเช้า,และค่ำ ไม่รวมร้านอาหารระหว่างทางจะตกอยู่ที่วันละ2,500ถึง3,500รูเปีย คิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ1,225บาท ไม่รวมอาหารมื้อกลางวันระหว่างเดินกลางทางก็อยู่อีกประมาณ1,500รูเปีย คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ525บาท ดังนั้นถ้าไม่เตรียมอาหารไปกินเองแบบประหยัดจริงๆค่าอาหารคือค่าใช้จ่ายเยอะสุดประมาณวันละ1,500-2,000บาท
ซึ่งท่านต้องทำใจยอมรับข้อนี้ให้ได้ ที่อาหารแพงเพราะขนส่งลำบากต้องจ้างคนเดินเท้าหรือใช้การขนส่งด้วยม้า ดังนั้นค่าใช้จ่ายต่างๆจะสูง อีกทั้ง อาหารแต่ละมื้อที่เรากิน จะรวมอาหารสำหรับไกด์และลูกหาบของเราแล้ว ซึ่งทางโรงแรมและร้านอาหารจะเตรียมอาหารท้องถิ่นที่ชื่อว่า“Dal Bhat”
Dal แปลว่า ซุปถั่ว
Bhat แปลว่า ข้าว
อาหารประจำชาติเนปาลจานนี้จึงแปลง่ายๆว่าเป็นข้าวกับซุปถั่วนั่นเองคนเนปาลจะรับประทาน Dal Bhat กันทุกวัน เป็นอาหารหลัก
อีกทั้งทางโรงแรมจะต้องจัดหาที่พักให้ไกด์และลูกหาบฟรีด้วย ดังนั้นค่าใช้จ่ายต่างๆจะรวมคิดมาที่เรา ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลดังนั้นแนะนำว่าอุดหนุนและกินอาหารโรงแรมเป็นหลักยกเว้นบางมื้อเบื่อจริงๆก็เตรียมอาหารไทยแบบง่ายๆที่พกพาไปได้กิน
ในการเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลแบบเจาะลึก เพื่อซึมซับศิลปะและอารยธรรมอันหลากหลายที่รวบรวมผู้คนที่แตกต่างทั้งในด้านภาษาและเผ่าพันธุ์แบบเข้าถึงวิถีท้องถิ่นอันเต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลครั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นทัวร์เมืองกาฐมาณฑุ รวมไปถึงเส้นทางเดินเทรค Langtang Velley ข้าพเจ้าใช้บริการทัวร์ของ เพจ Heaven On Nepal ซึ่งเป็นของทีมงานคุณอาบิน เป็นชาวเนปาลที่สื่อสารภาษาไทยได้ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของข้าพเจ้าได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุด
ซึ่งต้องบอกว่าประทับใจในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นงานบริการหรือการอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้รู้สึกอบอุ่นเสมือนมาเที่ยวกับเพื่อนสนิทที่คอยดูแลต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าที่ต้องเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลอีก จะต้องใช้บริการของบริษัทนี้อีกอย่างแน่นอนครับ
และถ้าท่านมาเดินเทรคเส้นนี้ในช่วงเดือน พฤศจิกายน แนะนำว่าห้ามพลาด ชิมน้ำผลไม้ท้องถิ่นของลังตังที่ชื่อว่า Seabuckthorn Juice ซึ่งเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ท้องถิ่น ทำมาจากผล Hippophae Salicifolia มีลักษณะเป็นพวง ผลเป็นลูกเล็กๆสีส้ม ชาวพื้นเมืองจะนำมาทำน้ำผลไม้ชนิดนี้ เวลากินจะมีรสหวานอมเปรี้ยว อุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ดื่มแล้วสดชื่นมากๆ แต่ระหว่างทางเดินไต่ระดับไปตามความสูงของเขาก็จะมีผลไม้ชนิดนี้ขึ้นอยู่บริเวณริมทางสามารถเด็ดกินได้เลยฟรีโดยไม่เสียเงิน
ซีบัคธอร์นSea Buckthorn นัับได้ว่าเป็นผลไม้มหัศจรรย์ที่จะทำให้คุณจะต้องทึ่งเป็นพืชโบราณที่ถือว่าเป็นเก่าแก่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง มีอายุยาวนานถึง 65 ล้านปี ได้ชื่อว่าเป็นราชาผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ อุดมไปด้วยคุณค่าของสารอาหารอยู่อย่างมากมายในสมัยกรีกโบราณได้มีการนำซีบัคธอร์นมาใช้เพื่อบำรุงรักษาม้าศึก โดยการนำผลและใบของซีบัคธอร์นมาใช้ในหลายๆวิธีเพื่อดูแลม้าให้มีสุขภาพแข็งแรงมีกำลังวังชา ขนดกมันวาว
ด้วยเหตุนี้ชาวกรีกโบราณจึงเรียกซีบัคธอร์นว่า ฮิปโปฟาเอ (Hippophae) หมายถึงม้าที่มีขนสวยเป็นเงางามผลไม้ชนิดนี้จะขึ้นอยู่ตามบริเวณที่ราบสูงที่มีอากาศหนาวจัดตลอดปี ผลจะมีสีเหลืองอมส้มรสชาติเปรี้ยว
-อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนสูงช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส
-มีวิตามินซีเยอะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่ากินส้ม15เท่า
-มีฟีนอลที่หยุดอ๊อกซิเดชั่นได้อย่างยอดเยี่ยม
-มีเบต้าแคโรทีนช่วยลดการแก่ก่อนวัยของเซลล์ผิว เป็นต้น
ตามโรงแรมที่พักและร้านชาแถบหิมาลัย จะมีน้ำดื่มที่มีส่วนผสมของผลไม้ชนิดนี้จำหน่ายราคาแพงมากด้วย
ในระหว่างเดินเท้าไปยังจุดหมายปลายทางท่านจะได้เห็นความหลากหลายทางชีวภาพทั้งสัตว์ป่าและป่าไม้ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์เพราะเส้นทางเดินนี้อยู่ในอุทยานแห่งชาติลังตัง จึงได้รับการดูแลและปกป้องเป็นอย่างดี อีกทั้งท่านจะได้มาดื่มด่ำกับทัศนียภาพของหิมาลัยแบบพาโนรามา ซึ่ง Langtang Lirung จะเป็นยอดเขาที่สูงสุดในเขตลังตัง อยู่ที่ระดับความสูงถึง 7,227 เมตร ซึ่งท่านสามารถชมความตระการตานี้ได้ในระยะประชิดจากบริเวณหมู่บ้าน Kyanjin Gompa หรือถ้าหากท่านอยากสัมผัสความงดงามของเขาอย่างใกล้ชิดก็สามารถเดินขึ้นไปพิชิตยอดเขา Kyanjin Ri ที่ระดับความสูง 4,773เมตร, Menchhyamsa Ri ที่ระดับความสูง 4,590 เมตร หรือเดินไปยัง Tsergo Ri ที่ระดับความสูง 4,984 เมตร ได้
และนอกเหนือจากความงดงามของ Langtang Lirung แล้ว ในวันที่ท้องฟ้าเปิดก็ยังจะได้เห็นภูเขาหิมาลัยลูกอื่นๆได้ด้วยเช่น Ganesh Himal , Manaslu, Dorje Lakpa, Langshisha Ri,Gangchhenpo,Yala peak และ Naya Kanga ฯลฯ
แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี2015 ซึ่งเส้นทางเดินนี้ได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง ทำให้หมู่บ้านที่อยู่ในแถบนี้ได้รับความเสียหายเยอะรวมไปถึงโรงแรมที่พัก ทำให้นักท่องเที่ยวเบนจุดหมายในการเดินเทรคไปยังเส้นทางอื่นๆแทนอาทิ เช่น เส้น ABC ,เส้น EBC (Everest Base Camp ) , เส้น Mardi Himal Base Camp เป็นต้น
ปัจจุบัน ถนนและเส้นทางเดินได้รับการฟื้นฟู จนสามารถกลับมาเดินเทรคได้แล้ว อีกทั้ง โรงแรมที่พักก็มีการซ่อมแซมก่อสร้างกันขึ้นมาใหม่เพื่อเปิดรับนักเดินทางอีกครั้ง
สำหรับโปรแกรมที่ข้าพเจ้าเดินเทรคเส้นนี้ใช้ระยะเวลาทั้งหมด8วัน โดยเริ่มตั้งแต่
-วันที่1 ออกเดินทางจากโรงแรม Vannasut Hotel and Spa กลางเมืองกาฐมาณฑุ ขึ้นรถจิ๊บส่วนตัว เดินทางไปยัง Syabru Besi ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 1,450เมตร ใช้ระยะเวลาในการนั่งรถประมาณ6ชั่วโมงโดยประมาณในกรณีท่านนั่งรถจิ๊ฟแบบส่วนตัวแต่ถ้านั่งรถโดยสารขนาดใหญ่ร่วมกันกับผู้อื่นจะใช้เวลาในการเดินทาง8ชั่วโมง เมื่อถึงที่นี่แล้วก็เข้าพักที่โรงแรมที่พัก1คืน โรงแรมที่พักที่นี่มีห้องน้ำส่วนตัวสะดวก
- วันที่2 เริ่มเดินเทคเป็นการเดินย้อนลัดเลาะไปตามสายน้ำหิมาลัยที่ไหลลงมายังที่ต่ำเพื่อเราจะต้องไต่ระดับความสูงไปเรื่อยๆโดยไปพักที่ rimche ที่ระดับความสูง 2,495เมตร พักที่นี่1คืน ใช้เวลาในการเดินพร้อมแวะถ่ายรูปไป7ชั่วโมง รวมแวะกินอาหารมื้อเที่ยงระหว่างทาง โรงแรมที่พักที่นี่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัวเป็นห้องน้ำรวมสะอาดพอสมควร ในห้องพักไม่มีอะไรให้เลยมีเพียงที่นอนและหมอนท่านต้องเตรียมถุงนอนมาอย่างต่ำ1ผืนแต่ข้าพเจ้าเตรียมมา2ผืนโดยนำมาจากเมืองไทย1ผืนและได้จากบริษัททัวร์อีก1ผืน พอจะช่วยให้คลายหนาวได้ และอีกเทคนิคที่ทางทัวร์บอกถ้าอยากให้ภายในถุงนอนอบอุ่นให้ซื้อน้ำร้อนจากร้านอาหารในที่พักใส่ในกระบอกน้ำใสที่เตรียมมาแล้วยัดเข้าไปในถุงนอนมันจะค่อยๆปล่อยความร้อนออกมาซึ่งก็พอจะช่วยลดระดับความหนาวลงได้ประมาณ3-5ชั่วโมงไม่ถึงกับตลอดคืนแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีตัวช่วย และอีกหนึ่งสิ่งที่แนะนำควรเตรียมมาคือถุงทรายร้อน,แผ่นแปะร้อนของญี่ปุ่นก็จะช่วยให้อบอุ่นได้เยอะเช่นกัน
โดยระหว่างเดินของแต่ละวัน ช่วงมื้อกลางวันจะแวะ Tea house กินอาหารของคนท้องถิ่นซึ่งเปิดให้บริการอาหารสไตล์เนปาลซึ่งเป็นอาหารที่มีอัตลักษณ์แสดงถึงวัฒนธรรมดั้งเดิม ชาวเนปาลจะใช้สมุนไพรและเครื่องเทศท้องถิ่นมากมายในการทำอาหารที่มีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางอาหารสูง
และมีเมนูอาหารแบบทิเบตผสมผสานอยู่ด้วย โดยทุกเมนูแทบจะไม่มีเนื้อสัตว์ จะเป็นอาหารมังสวิรัติเป็นหลัก โดยวัตถุดิบเช่นผักก็จะปลูกกันเองตามธรรมชาติปลอดภัยไร้สารเคมีและแป้งที่ทำจากข้าวสาลี
ในระหว่างเดินเทรคท่านจะเห็นป้ายภาษาเนปาลบอกให้ทราบว่าที่บริเวณนี้คือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หลายจุดตามภูเขาในเนปาล จะมีป้ายแจ้งแก่นักท่องเที่ยวให้รู้ว่า ห้ามกินเนื้อหมู, เนื้อควาย, เนื้อไก่ เนื่องจากชาวเมืองแถวนี้เขาเชื่อว่าเป็นสถานที่สถิตของเทพเจ้าของเขา และเมนูอาหารที่ครอบครัวชาวเนปาลทำก็จะเจอผัก ,ปลา, แป้ง,ไข่, ข้าว เป็นต้น
- วันที่3 เดินเทรคไปยัง Langtang Valley ที่ระดับความสูง 3,430เมตร ใช้เวลาเดิน8ชั่วโมงกับอีก30นาที พักที่นี่1คืน ที่นี่จะมีโรงแรมให้เลือกหลากหลายแบบทั้งแบบโฮมสเตย์ราคาถูกแบบห้องน้ำรวมและโรงแรมที่นี่มีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องพักสะดวก,สะอาดและได้มาตรฐานกว่าเยอะ ซึ่งข้าพเจ้าก็ลองทั้งสองแบบแต่แนะนำว่าให้เลือกโรงแรม Sunrise Guest House เพราะค่อนข้างได้มาตรฐานสูงในพื้นที่มีห้องน้ำในห้องนอน,อาหารอร่อยและแนะนำว่าให้สั่งนมจามรีหรือนม (ํYak) มากินใส่น้ำผึ้งลงไป อร่อยแบบเหนือคำบรรยาย
ระหว่างเดินเท้าท่านจะพบเห็นตัวจามรีหรือคนท้องถิ่นจะเรียกว่า(Yak) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในสายวงศ์ตระกูลของวัวและควาย (Bovidae) จามรีเป็นสัตว์ในตระกูลวัว มีลักษณะคล้ายวัวกระทิง แต่มีขนยาวดกหนาปกคลุ่มทั่วลำตัว มีหางยาวเป็นพู่ มีเขายาวโค้ง มีจุดเด่นคือมีขนที่ยาวมาก สามารถทนความหนาวเย็นได้ถึง- 40 c° และสามารถกินหิมะและน้ำแข็งแทนน้ำ
มีความสามารถในการคุ้ยหาพืชอาหารภายใต้ชั้นหิมะได้เป็นอย่างดี จึงกล่าวได้ว่าจามรีนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีคุณประโยชน์สูง เหมาะสำหรับพื้นที่สภาพอากาศเลวร้ายและทรัพยากรมีจำกัด ส่วนใหญ่ชาวพื้นเมืองจะนิยมเลี้ยงจามรี ใช้เป็นจามรีสามารถเป็นพาหนะในการนำพาเดินขึ้นเขาหรือที่ราบสูงได้เป็นอย่างดีรวมไปถึงบรรทุกสิ่งของขึ้นที่ราบสูง นอกจากนั้นก็ยังใช้ประโยชน์ในส่วนของเนื้อและนมนำมาทำเป็นอาหาร, ขนและหนังนำมาทำเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม,เพิ่มความอบอุ่นให้กระโจมที่พัก, กระดูกและเขานำมาแกะสลัก เป็นเครื่องมือเครื่องใช้, ไขมันใช้เป็นเชื้อเพลิง
โดยนมของตัวจามรีนี้นอกจากจะนำมาบริโภคสดๆหรือผ่านความร้อนให้สุกแล้วเค้า ยังใช้ทำเป็นเนยแข็งสำหรับชงชาได้ด้วยเพราะมีไขมันสูง ส่วนมูลสัตว์ของจารมีก็สามารถนำไปตากแห้งใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนทรัพยากรไม้ที่มีอย่างจำกัด เรียกได้ว่าสัตว์ชนิดนี้สามารถใช้ประโยชน์ได้ครบทุกส่วน ท่านสามารถจะพบเห็นจามรีเป็นจำนวนมากในบริเวณพื้นที่เขตเทือกเขาหิมาลัย, ตอนใต้ของเอเชียกลาง, ที่ราบสูงทิเบต ไปจนถึงมองโกเลียและรัสเซีย ซึ่งเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี ครับ
- วันที่4 เดินเทรคไปยัง Kyangin Gompa ที่ระดับความสูง 3,870เมตร ใช้เวลาเดิน4ชั่วโมงกับอีก30นาที พักที่นี่1คืน ข้าพเจ้าเลือกพักที่โรงแรม Super view โรงแรมที่นี่ภายในห้องนอนปูพรมเพิ่มความอุ่นเท้าได้เยอะและมีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้องพักสะดวกได้มาตรฐาน
- วันที่ 5 วันนี้จะเป็นวันที่หนักและเหนื่อยที่สุดตื่นตั้งแต่3.30น. เริ่มเดินตั้งแต่เวลา5.00น เพราะต้องเดินไต่ระดับความสูงขึ้นไปพิชิตยอดเขา โดยเดินเทรคไปยัง Tseko Ri ที่ระดับความสูง 4,990เมตร ใช้เวลาในการเดินไปและกลับ 9 ชั่วโมง หรือถ้าประเมินสภาพร่างกายแล้วไม่ไหว ก็จะไปแค่ Kyangin Ri ที่ระดับความสูง 4,773เมตร ซึ่งจะใช้เวลาในการเดินไปและกลับ 6 ชั่วโมง สรุปว่าไปได้เพียงแค่ Kyangin Ri เพราะเวลาไม่พอ กว่าจะกลับลงมาก็เกือบ11.00น.เมื่อลงมาด้านล่างเขาแล้วต้องรีบกินอาหารเช้าที่โรงแรมและเช็คเอ้าท์ออกเพื่อเดินกลับมานอนพักที่ Langtang Valley โดยใช้เวลาในการเดินกลับมาอีก6ชั่วโมงรวมแล้ววันนี้เดินทั้งหมด12ชั่วโมง โดยเข้าพักที่โรงแรม Sunrise Guest House
- วันที่ 6 เดินเทรคย้อนกลับไปทางเดิมซึ่งจะเรียกว่าเดินตามสายน้ำจากหิมาลัย เพื่อกลับไปนอนที่ Lama Hotel ใช้เวลาในการเดิน4ชั่วโมงกับ30นาที พักที่นี่1คืนโดยเข้าพักที่โรงแรมJungle view ที่นี่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัวเป็นห้องน้ำรวมสะอาด,ภายในห้องนอนไม่ใหญ่นักมีผ้าห่มให้และเครื่องนอนให้ครบดีกว่าที่ rimche
- วันที่ 7 เดินเทรคกลับมายัง Syabru Besi และพักที่นี่อีก1คืน ใช้เวลาเดิน 5ชั่วโมงโดยประมาณขาเดินกลับจะใช้เวลาเร็วขึ้นเยอะเพราะไม่ค่อยแวะถ่ายภาพเนื่องจากเก็บรูปและรายละเอียดต่างๆไว้เรียบร้อยหมดแล้วตั้งแต่ขาเดินไป โดยเข้าพักที่โรงแรมRoyal Himalaya Hotel & Lodge ข้าพเจ้ากล้าการันตีได้เลยว่าเป็นโรงแรมที่ได้มาตรฐานดีสุดในละแวกนี้ภายในห้องพักที่นี่มีห้องน้ำส่วนตัวสะดวก,มีผ้าเช็ดตัว,เครื่องนอนคุณภาพดีให้บริการ
-วันที่8 นั่งรถจิ๊บส่วนตัวกลับเมือง กาฐมาณฑุ เข้ากลับไปพักที่โรงแรม Vannasut Hotel and Spa ก่อนเดินทางกลับเมืองไทยในลำดับต่อไป
ห้องพักต่างๆตลอดทางที่เดินไปและกลับจะมีราคาใกล้เคียงกันโดยห้องพักที่ได้มาตรฐานและดีสุดราคาก็ไม่ใช่แพงคืนละ1,000รูเปียเท่านั้นถ้าเทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณ350บาทต่อคืน ดังนั้นแนะนำว่าให้ท่านเลือกโรงแรมดีสุดของแต่ละจุดเท่าที่จะวางแผนเลือกได้
ปัจจัยด้านอาหารคือสิ่งที่แพงสุดแต่นั่นก็คือรายได้เสริมของแต่ละโรงแรมที่พักอย่างข้าพเจ้ากินอาหารเช้า,และค่ำ ไม่รวมร้านอาหารระหว่างทางจะตกอยู่ที่วันละ2,500ถึง3,500รูเปีย คิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ1,225บาท ไม่รวมอาหารมื้อกลางวันระหว่างเดินกลางทางก็อยู่อีกประมาณ1,500รูเปีย คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ525บาท ดังนั้นถ้าไม่เตรียมอาหารไปกินเองแบบประหยัดจริงๆค่าอาหารคือค่าใช้จ่ายเยอะสุดประมาณวันละ1,500-2,000บาท
ซึ่งท่านต้องทำใจยอมรับข้อนี้ให้ได้ ที่อาหารแพงเพราะขนส่งลำบากต้องจ้างคนเดินเท้าหรือใช้การขนส่งด้วยม้า ดังนั้นค่าใช้จ่ายต่างๆจะสูง อีกทั้ง อาหารแต่ละมื้อที่เรากิน จะรวมอาหารสำหรับไกด์และลูกหาบของเราแล้ว ซึ่งทางโรงแรมและร้านอาหารจะเตรียมอาหารท้องถิ่นที่ชื่อว่า“Dal Bhat”
Dal แปลว่า ซุปถั่ว
Bhat แปลว่า ข้าว
อาหารประจำชาติเนปาลจานนี้จึงแปลง่ายๆว่าเป็นข้าวกับซุปถั่วนั่นเองคนเนปาลจะรับประทาน Dal Bhat กันทุกวัน เป็นอาหารหลัก
อีกทั้งทางโรงแรมจะต้องจัดหาที่พักให้ไกด์และลูกหาบฟรีด้วย ดังนั้นค่าใช้จ่ายต่างๆจะรวมคิดมาที่เรา ซึ่งมันก็สมเหตุสมผลดังนั้นแนะนำว่าอุดหนุนและกินอาหารโรงแรมเป็นหลักยกเว้นบางมื้อเบื่อจริงๆก็เตรียมอาหารไทยแบบง่ายๆที่พกพาไปได้กิน
ในการเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลแบบเจาะลึก เพื่อซึมซับศิลปะและอารยธรรมอันหลากหลายที่รวบรวมผู้คนที่แตกต่างทั้งในด้านภาษาและเผ่าพันธุ์แบบเข้าถึงวิถีท้องถิ่นอันเต็มเปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่น่าหลงใหลครั้งนี้
ไม่ว่าจะเป็นทัวร์เมืองกาฐมาณฑุ รวมไปถึงเส้นทางเดินเทรค Langtang Velley ข้าพเจ้าใช้บริการทัวร์ของ เพจ Heaven On Nepal ซึ่งเป็นของทีมงานคุณอาบิน เป็นชาวเนปาลที่สื่อสารภาษาไทยได้ ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของข้าพเจ้าได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์ที่สุด
ซึ่งต้องบอกว่าประทับใจในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นงานบริการหรือการอำนวยความสะดวกดูแลความปลอดภัยและใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้รู้สึกอบอุ่นเสมือนมาเที่ยวกับเพื่อนสนิทที่คอยดูแลต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
ถ้ามีโอกาสครั้งหน้าที่ต้องเดินทางมาเที่ยวประเทศเนปาลอีก จะต้องใช้บริการของบริษัทนี้อีกอย่างแน่นอนครับ
Skrevet 4. desember 2023
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
Joerg S
Karlsfeld, Tyskland32 bidrag
nov. 2023 • Par
Langtang Climate trek - eco friendly as a basis (google for the label)
Better guesthouses with photo voltaic
- no guide, no porter, no TIMS (I’ve asked twice in Kathmandu) but Langtang permit to be bought on the way
- Bus from Kathmandu: about 8 hours for 950R, ticket only at counter at bus station
- Hotel Country Villa in Syabru Besi - nice + friendly
- Sherpa Lodge - at Lama Hotel- quite ok (not part of the climate lodges)
- Everest Eco Lodge - top
- Buddha Inn Gompa - top
- Tibet Eco Hotel Sherpagon - top - good option to take the alternative way down
Kyanjin Ri - 4600 m - phantastic views
Better guesthouses with photo voltaic
- no guide, no porter, no TIMS (I’ve asked twice in Kathmandu) but Langtang permit to be bought on the way
- Bus from Kathmandu: about 8 hours for 950R, ticket only at counter at bus station
- Hotel Country Villa in Syabru Besi - nice + friendly
- Sherpa Lodge - at Lama Hotel- quite ok (not part of the climate lodges)
- Everest Eco Lodge - top
- Buddha Inn Gompa - top
- Tibet Eco Hotel Sherpagon - top - good option to take the alternative way down
Kyanjin Ri - 4600 m - phantastic views
Skrevet 12. november 2023
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
Mountain Nepal
Katmandu, Nepal5 bidrag
nov. 2022 • Venner
A gentle trek with fantastic views, pristine landscape, and friendly mountain people overlooking the mountains in Langtang Area.
Skrevet 20. april 2023
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
Clara
Verden6 bidrag
mar. 2023 • Alene
It’s my first time in Nepal and it’s being an amazing experience so far. Langtang Valley Trek is full of diversity between the treks through the forrest, following the river and mountains. I was also able to see different animals along the way. Great place to experience.
Ganga planed my entire trip and I’m most thankful for that. He listed to my requests and took in consideration what I wanted to do and the time that I had. With all of that he prepared a perfect and personalized itinerary.
Going alone I asked him for the best guide! First time and alone… and he succeeded. I had the perfect guide, Uttam. Always with a smile, making sure I was okay all along the way, giving me my time for pictures but at the same time marking the rhythm of the walk. He was also checking how much water I was drinking to avoid a headache and if I was having enough food. He really took a good care of me and that made me feel very confident all the way up.
EBC comes next and I’m of course doing it with him who did it more than 100 times already! I truly suggest you ask for him!
Ganga planed my entire trip and I’m most thankful for that. He listed to my requests and took in consideration what I wanted to do and the time that I had. With all of that he prepared a perfect and personalized itinerary.
Going alone I asked him for the best guide! First time and alone… and he succeeded. I had the perfect guide, Uttam. Always with a smile, making sure I was okay all along the way, giving me my time for pictures but at the same time marking the rhythm of the walk. He was also checking how much water I was drinking to avoid a headache and if I was having enough food. He really took a good care of me and that made me feel very confident all the way up.
EBC comes next and I’m of course doing it with him who did it more than 100 times already! I truly suggest you ask for him!
Skrevet 15. mars 2023
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
Meis G
Greater Sydney, Australia22 bidrag
nov. 2019 • Par
I walked the Langtang valley track over 6 days in November 2019. Permits and a Jeep were acquired in Kathmandu with the help of our guide’s company Gorkha Adventure Treks. However we did not have a guide or porter. If doing this trek without a guide or porter make sure you get all your permits in Kathmandu beforehand. The walk was achievable in the 6 days. The hardest part of the trek is the first day walking 10km with an increase in altitude of 1000 metres. All the people we met were friendly but they all seemed to be competing with each other for us to stay at their hotel or their relatives hotel in the next village. It is best for walkers to spread out and try to stay in the smaller villages in between the more common route as described by trekking companies. This way you get to know your host and the people and have a more personal experience. We noted the lack of children in the valley. This is because they are sent to Kathmandu for schooling. If you wanted to take something for the people they would appreciate sneakers/running shoes, sizes 36 to 39. Price of accommodation is reasonable. Best to take your own sleeping bag, bed sheet and pillow case. However not necessary if you want to travel really light. The food is vegetarian in the whole valley. The momos are really delicious.
Skrevet 25. juni 2020
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
Karin De Kuyper
1 bidrag
okt. 2019
adembenemend prachtige trekking 20 dagen onder de deskundige begeleiding van Treks Himalaya Pvt.Ltd met gids Krishna Adhikari. trekking op maat gemaakt. een zeer ervaren gids die instaat voor veiligheid en een unieke beleving van wat dit land te bieden heeft. Een aanrader voor wie op zoek gaat om een geweldige wandelervaring te beleven. Een goede wandeluitrusting en stapervaring is een must. Gids Krishna brengt je van alles op de hoogte wat je zeker moet meebrengen van uitrusting en geneesmiddelen. hoogteziekte enzv. het is zijn jarenlange ervaring die een meerwaarde geeft aan je trip.
Skrevet 15. mars 2020
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
Lucie V
Aix-en-Provence, Provence-Alpes-Cote d'Azur, France18 bidrag
des. 2019 • Par
We have made a 9 days trek combining Tamang and Langtang trail. We contacted directly our guide named Temba Tamang (owner of Me Very Happy Guesthouse) and arranged everything via email.
It was a great experience with wonderful people.
Booking directly with local people avoids that most of your money goes to agencies, everything we spent went directly to local people who definitely need it after the earthquake.
Temba is a beautiful person who will share everything with you.
Don't hesitate!
It was a great experience with wonderful people.
Booking directly with local people avoids that most of your money goes to agencies, everything we spent went directly to local people who definitely need it after the earthquake.
Temba is a beautiful person who will share everything with you.
Don't hesitate!
Skrevet 7. desember 2019
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
J E
München, Tyskland28 bidrag
okt. 2019
I enjoyed trekking in the Langtang valley. The elevation gain is gradual enough up to the top of the valley to make it accessible for most hikers. Biggest difficulty to overcome is the rough road up to the start of the hike from Kathmandu.
Skrevet 17. november 2019
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
Roadnight2014
Kettering, UK28 bidrag
mar. 2019 • Alene
A beautiful part of Nepal, although it is difficult to find a bad part of Nepal a land of contrasts from the jungles of Bardia in the west with its wild mammals including the tiger, the wondrously stunning Himalaya, where treks range from strenuous to others that are more relaxed and easier. But not forgetting the busiest of cities, Kathmandu and the tourist venue Pokhara with its calm and beautiful lake.
My Langtang trek, was challenging, I am quite a lot over 21! But such a good trek led by Raju from SAMSARA TREKKING.
Raju is not just a knowledgeable guide, he has done this trek so many times before, but a bird expert, I do not use "expert" lightly. He knows them all.
I felt safe at all times, and Raju also knows the best stopovers too.
All in all I would recommend this trekking company.110%
My Langtang trek, was challenging, I am quite a lot over 21! But such a good trek led by Raju from SAMSARA TREKKING.
Raju is not just a knowledgeable guide, he has done this trek so many times before, but a bird expert, I do not use "expert" lightly. He knows them all.
I felt safe at all times, and Raju also knows the best stopovers too.
All in all I would recommend this trekking company.110%
Skrevet 30. oktober 2019
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
しんどく
Hanno, Japan10 974 bidrag
sep. 2019 • Par
Everest 遊覧飛行で東端のマカルーからランタン・リルンまで見ることができました。
MELUNGTSE 7181m と GAURI-SHANKAR 7134mです。
今回見えた最西の山 LANGTANG LIRUNG 7234m です。
遠ざかって行く LANGTANG LIRUNG 7234m。
遊覧飛行も終わりです。
チャンドラギリの丘の上からもチラッと見えた LANGTANG LIRUNG 7234m です。
MELUNGTSE 7181m と GAURI-SHANKAR 7134mです。
今回見えた最西の山 LANGTANG LIRUNG 7234m です。
遠ざかって行く LANGTANG LIRUNG 7234m。
遊覧飛行も終わりです。
チャンドラギリの丘の上からもチラッと見えた LANGTANG LIRUNG 7234m です。
Skrevet 22. oktober 2019
Denne anmeldelsen er den subjektive meningen til et Tripadvisor-medlem og kommer ikke fra Tripadvisor LLC. Tripadvisor sjekker anmeldelser.
We (2 people) plan to hike along Langtang trek around mid April,
Should I book accommodations in advance or just walk-in?
And if I need to book rooms in advance, how can I book them? Through travel agents?
Thank you
Skrevet 13. desember 2022
I do not think so. Lodges were available. I do not know when you are going but number of trekkers in this region is less than in others. The three main settlements Lama hotel, Langtang and Kyangjin gompa have lots of lodges.
Skrevet 8. oktober 2019
It is highly recommended to trek with with a guide from Trekking company. Regarding the budget Nepali currency equivalent to 80-85 US$ will be sufficient for the trek. Cost for beverages will be extra.
Skrevet 6. mars 2019
MAy i ask if mid of November a good season for hiking in Langtang trek?
Skrevet 5. desember 2018
Perfect time to go langgang Treks and most of Nepal high elevation trek.
Skrevet 9. januar 2019
Hola. Es necesario llevar una tienda de campaña para hacer el langtang trek? O hay suficientes lugares que ofrecen hospedaje? Quiero ir en diciembre
Skrevet 11. mai 2018
You don't need to take any tents to trek normal trekking route of Langtang valley. The area was completely devasted during mega-earthquake of 2015. however, it has completed the reconstruction works. and all the lodges are in operation. You will get accommodation easily.
Skrevet 30. mars 2019
Hello, I'm wondering what lodging in a Langtang or LGH-region tea-house would cost, including breakfast and diner. Also, I assume that paying is in RS, small notes, not in $. Is that correct?
Thanks for answering.
Hans
Skrevet 3. august 2017
You'll need a minimum of 20 US dollars a day. Then if you've got a sweet tooth or a liver that require some feeding at the end of a day's walk, you will need more for chocolate and beer.
And yes, nepali RS only
Skrevet 18. mars 2018
elainesmy
Newcastle (upon Tyne), Storbritannia
Hi,
I'm a sole female who would like to join a group trek to the Langtang Valley for around 7 days as I only have 12 days in Nepal and would like to try to get to Pakhara if possible. Can anyone recommend a good trekking company whose group tour I might be able to join? Would it be possible for me to land in Kathmandu and join a trek the next day or should I book this in advance before I travel? Thanks
Skrevet 22. januar 2017
I used Nepal Lion Tours and Treks and they were great. Although i'm not sure if they do group tours - I think they only do private tours. Having said that, they joined me up with a British couple so in the end there were three of us plus a guide and their porter, which made for a nice group. (This was for Poon Hill not Langtang by the way). Nepal is awesome! Enjoy!
Skrevet 21. desember 2018
How can we 2 people book a trekking-tour 7days to Langtang Valley from Jan,19 to Jan,26 next year ? what website provides tour like that by group 10-12 ?
Skrevet 28. november 2016
the easiest way to book is probably arriving to kathmandu a few days before and pick an agency here. online booking will most likely be more expensive. you also dont need a guide for the trekk, a map is enough in which case you just need to sort the permits which should take 24h :) you can get the permits at the entrence to the park, but for double the price. if you are going i recommend staying at the woodland lodge, the owners are the most caring and friendly people, and the daal bhat is fantastic. at the top in kyajin there is the friendly guest house (i think, something with friend in the name anyway) that have indoor heating and hot water, a blessing in the cold. sorry for late reply, hope that it will still be useful.
Skrevet 5. januar 2017
Viser resultatene på side 1-8 av 8
Inntekter påvirker opplevelsene som er omtalt på denne siden. Finn ut mer.
Er dette Tripadvisor-oppføringen din?
Eier eller administrerer du dette stedet? Gjør krav på oppføringen din gratis for å svare på anmeldelser, oppdatere profilen din og mye mer.
Gjør krav på oppføringen din